มารู้จัก Imposter Syndrome : เมื่อเรารู้สึกไม่เก่ง ทั้งที่เก่งแล้ว

Imposter Syndrome
Imposter Syndrome คือการที่เราสงสัยในความสามารถ ทักษะ รวมถึงความสำเร็จของตัวเอง แม้ว่าความจริงแล้วจะมีหลักฐานชัดเจนว่าเรามีความสามารถนะ เลยมักจะมองว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้น เป็นเพราะปัจจัยภายนอก เช่น เชื่อว่าความสำเร็จมาโชคมากกว่ามองว่ามาจากความสามารถของเรา

ที่สำคัญคือ เรามักจะ “กลัว” ว่าคนอื่นจะเห็นว่าตัวเรา “ไร้ความสามารถ” จึงพยายามปกปิดเอาไว้ เลยรู้สึกว่าต้องหลอกคนอื่นอยู่เสมอว่าเรามีความสามารถ (ซึ่งจริง ๆ แล้วเรามีความสามารถนะ)

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น Clance & Imes (1978) ได้มีการอธิบาย imposter syndrome cycle ไว้ตามรูปด้านล่าง 

จะเห็นว่าคนที่มีลักษณะดังกล่าวจะมีชุดความคิดที่บิดเบือนไปจากความเป็นจริง (Cognitive Distortions) เช่น

ความคิดว่า “เขาไม่ได้ชมเราจริง ๆ หรอก เขาแค่ปลอบใจ” ซึ่งเป็นความคิดแบบ Mental Filter (มองแต่ข้อบกพร่องที่ตนเองรับรู้ และละเลยความสำเร็จของตนเอง)

ความคิดว่า “คงเพราะโชคแหละที่งานมันออกมาดี” ซึ่งเป็นความคิดแบบ Discounting the positive (ไม่เชื่อเลยว่าตัวเองมีแง่มุมทางบวก)

ความคิดว่า “ถ้าใครเห็นข้อผิดพลาดของเรา เขาต้องมองว่าเราไร้ความสามารถแน่ ๆ” ซึ่งเป็นความคิดแบบ Jumping to Conclusions (การสรุปผลไปในทางที่เลวร้าย)

โดยธรรมชาติ “ความคิด” เมื่อถูกคิดวน ๆ ซ้ำ ๆ จะยิ่งทำให้เราคิดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ง่าย จนมันพัฒนากลายเป็น “ความเชื่อ (core belief)” ซึ่งง่ายต่อการตัดสินตัวเองในทางลบ และการที่เรามี “ความเชื่อ” ไปแล้วว่าเราไม่เก่ง ไร้ความสามารถ คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสั่งตัวเองให้หยุดเชื่อ หรือ หยุดคิด แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เพียงแค่..

1. ค่อย ๆ ลองหยุดคิด และกลับมาทำความเข้าใจว่า ความคิด ความเชื่อนั้นสอดคล้องกับความจริงไหม? เช่น เมื่อเราทำอะไรสำเร็จแล้วมีความคิด…“คงเพราะโชคแหละที่งานมันออกมาดี” ลองเริ่มถามตัวเองดูว่า นอกจากโชคแล้ว มีอะไรอีกที่เป็นส่วนช่วยให้เกิดความสำเร็จ? หรือ ตัวเรามีส่วนในความสำเร็จนี้อย่างไรบ้าง?

2. เปลี่ยนจากการตัดสินตัวเอง มาตั้งสติ แล้วลองทำความเข้าใจ เช่น เมื่อเราทำอะไรสำเร็จแล้วมีความคิด…“ถ้าใครเห็นข้อผิดพลาดของเรา เขาต้องมองว่าเราไร้ความสามารถแน่ ๆ” ลองพูดกับตัวเองว่า…“เรามีความคิดว่าเราไร้ความสามารถ” ไม่ใช่ตัวเราไร้ความสามารถ” แล้วค่อย ๆ กลับมามองว่า อะไรบ้างมีเป็นตัวบอกว่าเราไร้ความสามารถ แล้วมันเป็นความจริงมากน้อยยังไง

3. อย่าปล่อยให้ตัวเองไหลไปกับความคิด ธรรมชาติของคนคิดเก่งอยู่แล้ว เพราะงั้นอย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ก้อนความคิดลบ ๆ หรือ ลองหาสิ่งต่าง ๆ ทำ เพื่อให้ไม่ “จม” ไปกับความคิด

สุดท้ายนี้ อยากจะเน้นว่ายังมีอีกมากมายหลายวิธีในการรับมือกับ imposter syndrome รวมถึงสิ่งที่ยากคือ “การที่เราเชื่อไปแล้ว” การที่จะเปลี่ยนความเชื่อไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ใช่ทำไม่ได้ ต้องอาศัยระยะเวลา และที่สำคัญต้องมี “สติ” ในการจะแยกแยะว่าชุดความคิดไหนเป็นจริง อันไหนเป็นเท็จ

🌱🌱🌱🌱🌱🌱🌱🌱🌱🌱🌱

🔆 อยากนัดหมายเพื่อปรึกษากับนักจิตวิทยา แอดไลน์สอบถามได้ที่
Line : @onmindway / คลิกเพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/JB46W3W

🔆 รายชื่อนักจิตวิทยาของเรา
https://onmindway.com/psychologist/

Picture of ตะวัน ศิริคุรุรัตน์

ตะวัน ศิริคุรุรัตน์

นักจิตวิทยาการปรึกษา on mind way counseling center

Tags :
Share This Post :

Related Post

เดอะแบกของบ้าน

“เดอะแบกของบ้าน” : 5 แนวทางการดูแลใจ สำหรับคนที่คอยดูแลทุกคน

ในทุกครอบครัว มักจะมีใครสักคนที่เป็น “เดอะแบกของบ้าน” คนที่คอยดูแลทุกคนเวลามีปัญหา คอยจัดการสารพัดเรื่องโดยไม่ปริปากบ่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เหนื่อย แต่เพราะกลัวว่า “เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นเครียด”

Read More »
รับมือ หลงตัวเอง

รับมือยังไง ให้ใจไม่พัง เมื่อต้องเจอกับคนที่ ‘หลงตัวเองจนเป็นปัญหา’

การที่เราต้องอยู่กับคนที่มีพฤติกรรมหลงตัวเองจนเป็นปัญหา ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราทุกข์ใจได้เหมือนกัน วันนี้เลยชวนทุกคนมาดูว่า เราสามารถรับมืออย่างไรได้บ้าง เพื่อดูแลใจตัวเอง ไม่ให้ถูกบั่นทอนไปเสียก่อน

Read More »
หลงตัวเอง

พฤติกรรม “หลงตัวเอง” vs โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder)

“Narcissist” หรือ “การหลงตัวเอง” กลายเป็นหนึ่งคำที่ทุกคนรู้จักกันเป็นวงกว้าง และมักใช้เรียกคนที่มีลักษณะทางลบบางอย่าง เช่น เห็นแก่ตัว ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือมองว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น

Read More »

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save